21/03/2566

Microsoft เผยแพร่สคริปต์เพื่อแก้ไขช่องโหว่การ bypass WinRE BitLocker


Microsoft shares script to fix WinRE BitLocker bypass flaw

    Microsoft เผยแพร่สคริปต์ที่ช่วยแก้ไขช่องโหว่จากการ bypass BitLocker ใน Windows Recovery Environment (WinRE) ซึ่งสคริปต์ PowerShell ดังกล่าว ช่วยลดความเสี่ยงของ WinRE จากการถูกโจมตีโดยใช้ช่องโหว่ CVE-2022-41099 ซึ่งจะทำให้ผู้โจมตีสามารถ bypass ฟีเจอร์ BitLocker Device Encryption ใน storage devices
    โดย Microsoft ระบุว่า หากผู้ใช้งานเปิดใช้งานการป้องกัน BitLocker TPM + PIN จะทำให้ผู้โจมตีไม่สามารถใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้ได้ ซึ่งสคริปต์ PowerShell ดังกล่าวได้รับการพัฒนาโดยทีมงาน Microsoft เพื่อช่วยในการอัปเดต WinRE images อัตโนมัติบนอุปกรณ์ Windows 10 และ Windows 11
สคริปต์ที่ใช้ในการรัน คือ PatchWinREScript_2004plus.ps1 สามารถอัปเดตความปลอดภัยในระบบที่ใช้ Windows 10 เวอร์ชัน 2004 เป็นต้นไป รวมถึง Windows 11 และยังมีสคริปต์ PatchWinREScript_General.ps1 สำหรับ Windows 10 เวอร์ชัน 1909 หรือเก่ากว่า


วิธีการใช้ WinRE Patch Script
 สามารถเรียกรันสคริปต์จาก Windows PowerShell เพื่อแก้ไขช่องโหว่ CVE-2022-41099 โดยผู้ดูแลระบบต้องทำการระบุ path และชื่อของ package เพื่อทำการอัปเดต WinRE
 อัปเดตนี้เป็นแบบเฉพาะสำหรับบางรุ่นของ OS-version และ processor architecture โดยต้องทำการดาวน์โหลดจาก Microsoft Update Catalog เท่านั้น และสคริปต์ยังมีการใช้พารามิเตอร์ workDir เพื่อเลือกพื้นที่ว่างที่จะใช้ในระหว่าง patch (หากไม่ได้ระบุ สคริปต์จะใช้โฟลเดอร์ temp เป็นค่าเริ่มต้นบน Windows)

การรันสคริปต์จะมีขั้นตอนต่อไปนี้:
  • Mount WinRE ที่มีอยู่ (WinRE.WIM)
  • อัปเดต WinRE ด้วยแพ็คเกจที่ระบุไว้ใน Windows Update Catalog
  • Unmount การติดตั้ง WinRE
  • หากมี BitLocker TPM อยู่ ตัวฟีเจอร์ป้องกันนี้จะกำหนดค่า WinRE ใหม่
หลังจากรันสคริปต์แล้ว ไม่จำเป็นต้อง restart เครื่องเพื่อ reboot ใหม่ก็ถือว่าทำการอัปเดตเสร็จสิ้นแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น