แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Elastix แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Elastix แสดงบทความทั้งหมด

02/04/2563

Path Config File ของระบบ Elastix/Issabel


DIRECTORY เก็บไฟล์บันทึกเสียงการสนทนา
  • /var/spool/asterisk/monitor

DIRECTORY เก็บไฟล์ Voice Mail
  • /var/spool/asterisk/voicemail

DIRECTORY เก็บไฟล์ config Extension สำหรับทำ Dial Plan
  • /etc/asterisk/extensions.conf

DIRECTORY เก็บไฟล์เสียงสำหรับทำ Announcement
  • /var/lib/asterisk/sounds

DIRECTORY เก็บไฟล์ PHPAGI
  • /var/lib/asterisk/agi-bin

29/10/2561

CLI: Elastix SIP Server แสดง Active Call (ผู้ใช้งาน) แบบ Realtime

จากที่หน้า FOP ( Flash Operation Panel ) ของ Elastix และ FreePBX ไม่สามารถ แสดง Active Call แบบทั้งหมดได้ จึงได้ลองหาวิธีที่จะแสดง Call ทั้งหมด

พบว่า มีคำสั่ง ที่น่าสนใจดังนี้
# watch -n 1 "asterisk -vvvvvrx 'core show channels' "
ผลที่ได้คือ

และคำสั่ง

02/03/2561

ใช้ Elastix แล้ว เมื่อโทรเข้าระบบตอบรับอัตโนมัติ ของปลายสายแล้ว เมื่อต้องกดปุ่ม # จะได้ยินเสียงคำว่า Transfer

ท่านที่ใช้งานระบบ Elastix แล้วโทรออกไปยัง เบอร์ปลายทาง แล้วต้องกดรหัส แล้วตามด้วยเครื่องหมาย # จะได้ยินเสียง ค่าว่า Transfer ตาม และจะได้ยินเสียงอื่น อีกเล็กน้อย

พบว่า การกดเครื่องหมาย # จะเป็นการส่ง ค่าให้โอนสายให้ระบบรับทราบ แต่ไม่มีค่าที่ส่งไป จึงทำให้ระบบแจ้ง Error ดังกล่าว

การแก้ไขเบื้องต้นทดสอบ โดยทำการตั้งค่าตามนี้
พบว่าสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ครับ


24/07/2560

การตั้งค่าการใช้งาน Elastix กับ AIS SIP Trunk

หลังจากได้เปิดใช้งาน AIS Fixed Line IP (AIS SIP Trunk แบบ Corporate)

ก็จะได้เอกสารมาหนึ่งแผ่น ซึ่งจะแจ้งข้อมูลดังนี้

  1. หมายเลขโทรศัพท์ ที่ใช้เป็นเลขหมายสำหรับโทรเข้าออก
  2. หมายเลขโทรศัพท์ ที่สามารถใช้งานได้ทั้งหมด (เป็นชุดเลขหมาย)
    เบื้องต้นที่ขอติดตั้ง 15 เลขหมาย 30 Concurrent
  3. จำนวน Call Pre Sec: 1
  4. Concurrent: 30
  5. Voice Codec: G711 & G729
  6. Fax Protocol: T38
  7. Authentication: IP Address Peering (ไม่ต้องทำการ Register โดยจะทำการเชื่อมต่อกันผ่าน IP Address ซึ่งหากเป็น IP ที่กำหนด จะสามารถใช้งานได้)
    โดยการติดตั้ง จะให้อุปกรณ์ Router Gateway พร้อม กำหนด IP Address ไว้แล้ว
  8. กดหนด IP SIP Server ของลูกค้า
  9. กำหนด IP Gateway ที่จะวิ่งไปหา SIP Server ของ AIS
  10. กำหนด IP SBC Server (SIP Server ของ AIS)
  11. แจ้งไว้ด้วยว่าในการใช้งาน ให้ตัด 0 ด้านหน้าออก เช่น 023456789 ก็ใช้เพียง 23456789 แทน User หรือเลขหมายที่ใช้งาน
เริ่มต้น ตั้งค่า

20/07/2560

ติดตั้ง Elastix แล้วไม่สามารถใช้คำสั่ง yum ได้

เมื่อติดตั้ง Elastix แล้วไม่สามารถใช้คำสั่ง yum ได้ 

กรณีพบปัญหา
[root@sip ~]# yum update
Loaded plugins: fastestmirror
Loading mirror speeds from cached hostfile
YumRepo Error: All mirror URLs are not using ftp, http[s] or file.
 Eg. Invalid release/
removing mirrorlist with no valid mirrors: /var/cache/yum/addons/mirrorlist.txt
Error: Cannot find a valid baseurl for repo: addons


ให้ทำการแก้ไขไฟล์

/etc/yum.repos.d/CentOS-Base.repo

ให้มีค่าตามนี้

how to add static route (Elastix) : วิธีเพิ่ม Staic Route ให้ Elastix

กรณีElastix มี หลาย Network Card
แล้วต้องการเพิ่ม Route เข้าไปในระบบ สามารถเพิ่ม Static Route ได้ตามนี้

# route add -host <Destination IP>  gw <Gateway IP> eth1


11/01/2560

รวม Path ConfigFileต่างๆ ของ Elastix

DIRECTORY  สำหรับเก็บไฟล์บันทึกเสียงการสนทนา ของElastix  มีดังนี้
# /var/spool/asterisk/monitor
DIRECTORY  สำหรับเก็บ Voice Mail  จะอยู่ ดังนี้
# /var/spool/asterisk/voicemail
DIRECTORY  สำหรับเก็บ ไฟล์ config Extension สำหรับทำ Dial Plan จะอยู่ ดังนี้

#/etc/asterisk/extensions.conf

การ Reset Password admin web elastix

กรณีที่เราทราบ account root บน elastix สามารถ ssh เข้าไปที่เครื่องได้ แต่ลืม password admin ที่จะเข้าบริหารจัดการ elastix ผ่านหน้าเว็บสามารถใช้คำนั่งนี้เพื่อ reset password ของ admin ได้
sqlite3 /var/www/db/acl.db "UPDATE acl_user SET md5_password='`echo -n newpassword|md5sum|cut -d' ' -f1`' WHERE name='admin'"
ตัวอย่าง หากเราต้องการ reset เป็นคำว่า "password" ก็ใช้คำสั่ง
sqlite3 /var/www/db/acl.db "UPDATE acl_user SET md5_password='5f4dcc3b5aa765d61d8327deb882cf99' WHERE name='admin'"
ลองใช้งานดูได้ครับ ที่มา http://www.networkinghowtos.com/howto/reset-elastix-web-interface-admin-password/

Voicemail on Elastix

Voicemail คือข้อความเสียง เราสามารถฝากข้อความเสียงไว้ได้ถ้าไม่สามารถติดต่อเบอร์ปลายทางนั้นได้ ข้อความเสียงจะถูกบันทึกเป็นไฟล์เสียงเก็บไว้ใน Mailbox ผู้ใช้สามารถกดเข้าไปฟังได้หรือตั้งค่าให้ส่งไฟล์เสียงไปยังอีเมล์ที่ตั้งค่าได้ครับ การตั้งค่าสามารถตั้งค่าให้บันทึกได้จากเบอร์ที่ไม่ได้ออนไลน์ สายไม่ว่าง หรือไม่ได้รับสายตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ เมื่อมีการโทรเข้ามาจะมีเสียงแจ้งว่า ไม่สามารถติดต่อได้ ระบบจะให้ฝากข้อความไว้ ข้อความที่ถูกฝากไว้จะถูกนำไปเก็บไว้ที่กล่องรับ Voicemail หรือสามารถให้ส่งไปยังอีเมล์แอดเดรสที่ระบุได้ครับ
เปิดใช้งาน Voicemail

1.เข้าเว็บ Elastix และ Login เข้าระบบ


2.เลือก Extension ที่ต้องการเปิดใช้ Voicemail โดยการคลิ๊กที่ PBX และคลิ๊กเบอร์ Extension ทางด้านขวามือ


3.เลื่อนลงมาด้านล่างจนถึงหัวข้อ "Voicemail & Directory" พร้อมทั้งแก้ไขข้อมูลดังรูป


Status = Enabled|Disabled เลือกเป็น Enabled เพื่อเปิดใช้ Voicemail สำหรับเบอร์ Extension นี้
Voicemail Password = ตั้งรหัสผ่าน ตั้งให้เป็นตัวเลข ซึ่งระบบจะถามเมื่อเรากดเข้าไปเช็ค Voicemail
Email Address = อีเมล์แอดเดรสที่ระบบจะส่งข้อความไปแจ้งว่ามี Voicemail ฝากไว้
Pager Email Address = เป็นอีเมล์แอดเดรสของ Pager หรือ Mobile ที่ระบบจะส่งข้อความสั้นๆไปบอกว่ามี Voicemail ฝากไว้
Email Attachement = Yes|No ถ้าเลือกเป็น Yes เวลาที่ระบบส่งข้อความแจ้งไปที่อีเมล์ มันจะส่งไฟล์เสียงไปด้วย
Play CID = Yes|No ถ้าเลือกเป็น Yes ระบบจะบอกด้วยว่าเบอร์ Extension ไหนที่ฝากข้อความไว้ บอกเฉพาะตอนที่กดเข้าไปฟัง
Voicemail Play Envelope = Yes|No ถ้าเลือกเป็น Yes ระบบจะบอกวันที่และเวลาที่ฝาก Voicemail ไว้
Delete Vmail = Yes|No ถ้าเลือกเป็น Yes เมื่อส่งอีเมล์ไปแจ้งแล้วระบบจะลบ Voicemail ทิ้งจาก Mailbox
VM Options = กำหนดออปชั่นเพิ่มเติมให้แก่ Voicemail ของ Extension นี้ เช่น maxmessage=60|review=yes
VM Context = เป็นชื่อ Context ของวอยส์เมล์ ดีฟอลท์มีชื่อว่า default ควรใช้ค่าดีฟอลท์นี้

4. คลิ๊ก "Submit" แล้วอย่าลืมคลิ๊กที่แถบ Apply Configuration Changes Here สีชมพูด้านบนด้วยนะครับเพื่อให้การ Config มีผลทันที

วิธีการเข้าไปเช็ควอยส์เมล์
เรามีวิธีเข้าไปเช็ควอยส์เมล์ก็โดยการกดเบอร์ Extension ที่ระบบกำหนดไว้เป็นเบอร์สำหรับเช็ควอยส์เมล์ ซึ่งค่าเริ่มต้นมีอยู่ด้วยกัน 2 เบอร์ คือ *97 และ *98 ทั้งสองเบอร์นี้แตกต่างกันตรงที่
*97 เมื่อโทรไป ระบบจะไม่ให้เราใส่เบอร์ Extension ที่ต้องการจะเช็คข้อความ โดยระบบจะเดาว่าเราต้องการเช็คข้อความของเบอร์ Extension ที่เราใช้โทรเข้าไป ระบบจะถามแต่พาสเวอร์ด (ถ้าตั้งไว้) เบอร์นี้เหมาะสำหรับโทรจากเครื่องของเราเองครับ
*98 เมื่อเราโทรไปเบอร์นี้ ระบบจะให้ใส่เบอร์ Extension เราก็กดเบอร์ Extension ที่ต้องการจะเช็คข้อความ จากนั้นใส่พาสเวอร์ด (ถ้าตั้งไว้) เบอร์นี้เหมาะกับโทรจากเครื่องไหนก็ได้ครับ
ถ้าไม่ชอบ *97, *98 จะเปลี่ยนก็ได้นะครับ เข้าไปที่เมนู "PBX -> Feature Codes" เลื่อนลงมาล่างสุดจนเห็น "Voicemail"
Dial Voicemail ระบบจะถามเบอร์ Extension ครับ ส่วน My Voicemail ระบบจะไม่ถามเบอร์ Extension ถ้าต้องการแก้ไขจากเบอร์ *97, *98 เป็นเบอร์อื่น ให้คลิ๊กเอาเครื่องหมาย "ถูก" ออกก่อนแล้วจึงแก้ไขเบอร์ครับ
ถ้าต้องการปิดไม่ให้เช็คอีเมล์ได้ ก็เปลี่ยนจาก Enabled เป็น Disabled ครับ
ทำเสร็จก็อย่าลืมคลิ๊กที่ "Submit Changes" แล้วคลิ๊กที่แถบสีชมพูด้านบนด้วยนะคับ ไม่เช่นนั้นจะใช้งานไม่ได้ Elastix มีเมนูสำหรับเข้าไปดู Voicemail ได้ด้วยนะครับ คือเมนู "PBX -> Voicemails"


การตั้งค่าเงื่อนไขการใช้ Voicemail
คงยังจำได้นะครับว่าเงื่อนไขที่ระบบจะโอนสายเข้า  Voicemail นั้น มีอยู่ด้วยกัน 3 กรณีคือ
1. เมื่อ Extension ไม่ได้ออนไลน์ (Unavailable)
2. เมื่อ Extension สายไม่ว่าง (Busy)
3. เมื่อ Extension ไม่ได้รับสายภายในเวลาที่กำหนด (No Answer)

สองกรณีแรกก็ตรงไปตรงมาครับ แล้วกรณีที่ 3 หล่ะ ไปเซ็ตกันตรงไหนว่าถ้าไม่ได้รับสายภายในเวลาที่กำหนดให้โอนสายเข้าวอยส์เมล์ เข้าเมนู "PBX -> PBX Configuratoin" แล้วคลิ๊กที่ "General Settings" ครับ


"Ringtime Default" นี่คือระยะเวลาที่หาก Extension ไม่รับสายระบบจะโอนเข้า Voicemail หน่วยเป็นวินาทีครับ

การเปลี่ยนเสียงก่อนฝากข้อความใน Voicemail
ท่านที่เคยใช้ Voicemail บน Elastix คงจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับเสียงที่ได้ยินเวลาเราโทรไปหาเบอร์ Extension (ที่เปิดใช้งาน Voicemail) ที่ไม่รีจิสเตอร์ สายไม่ว่าง หรือไม่รับสาย
เสียงที่ผมว่านี้ก็คือเสียงข้อความภาษาอังกฤษว่า "The person an extension x x x is unavailable" หรือ "The person an extension x x x is on the phone" และก็จะตามด้วย "Please leave message after the tone..." โดยเสียงที่สองนี้สามารถปิดได้นะครับ โดยเข้าเมนู "PBX -> PBX Configuratoin" คลิ๊กที่ "General Settings" แล้วคลิ๊กเลือก Do Not Play "please leave message after tone" to caller ครับ
หากเราต้องการเปลี่ยนเสียงแรก The person an extension .... ให้เป็นเสียงของเราเอง ก็เป็นไปได้นะครับ
โดย Elastix ให้เราเปลี่ยนเสียงได้โดยการโทรเข้าไปบันทึก วิธีการก็คือใช้เบอร์ Extension ของตัวเองโทรไปยังเบอร์เช็ค Voicemail โทรได้ทั้งสองเบอร์เลยครับไม่ว่าจะเป็น *97 หรือ *98
หลังจากใส่พาสเวอร์ดแล้ว ให้กด 0 เข้าสู่กระบวนการบันทึกเสียงต่อไป ซึ่งมีให้เลือกหลายข้ออยู่ เช่น
กด 1 บันทึกเสียงเมื่อ Unavailable
กด 2 บันทึกเสียงเมื่อ Busy
กด 3 บันทึกชื่อตัวเอง
กด 4 บันทึกเสียงต้อนรับ
กด 5 เปลี่ยน Password ของ Voicemail
กด * ย้อนกลับสู่เมนูหลัก
ถ้าฟังไม่ทันก็กด 0 ใหม่อีกรอบครับ

เมื่อบันทึกเสียงเสร็จแล้ว Asterisk จะเก็บเสียงของเราไว้ในโฟลเดอร์ /var/spool/asterisk/voicemail/default/XXXX  โดยที่ XXXX เป็นเบอร์ Voicemail
ไฟล์เสียงที่ได้จะมีไฟล์ *.wav และ *.WAV เป็นชื่อเดียวกันโดยไฟล์ .wav จะมีขนาดใหญ่กว่าครับ
ไฟล์เสียง unavail.wav และ unavail.WAV เป็นเสียงตอน Unavailable
ไฟล์เสียง busy.wav และ busy.WAV เป็นเสียงตอน Busy
ไฟล์ greet.wav และ greet.WAV เป็นเสียงตอนบันทึกชื่อตัวเอง
ไฟล์ temp.wav และ temp.WAV เป็นเสียงข้อความต้อนรับ

10/01/2560

การตั้งค่าให้ Elastix สามารถใช้งาน Voip ได้

เมื่อทำทำการติดตั้ง  Elastix แล้ว และได้ตั้งค่า ip เรียบร้อยแล้ว ให้เรานำ ip เครื่องที่ติดตั้ง Elastix มาใส่ในช่อง url เพื่อทำการตั้งค่า Elastix

เมื่อเข้ามาหน้าแรกให้เราใส่ username กับ password ลงไป

เมื่อเข้ามาที่หน้าเว็บ จะมีค่าสถานะต่างๆของสถานะเครื่อง Elastix
ให้เราเลือกไปที่ PBX > PBX Configuration

เมื่อเข้ามาในหน้านี้ให้เราเลือก Generic SIP Device และกด Submit


ต่อมา ให้เราใส่ ข้อมูล ลงไปในช่องแต่ละช่องให้ครบ ได้แก่
User Extension > ให้ใส่ เบอที่เราจะตั้งลงไป
Display Name > ชื่อที่จะให้แสดง
secret > รหัสผ่าน
เสร็จแล้วให้กด Submit



เมื่อลงทะเบียนหมายเลขเรียบร้อย จะมีเลขที่เราลงทะเบียนไว้ในกรอบด้านขวา


ลองกดไปที่หน้า System > Dashboard > Dashboard

จะมี SIP Extensions ของเราขึ้นมา 1 อัน (ในรูปของเก่ามี 6 อัน)

เมื่อตั้งค่าใน Elastix เสร็จหมดแล้วให้เรามาลองใช้งานกันดูครับ
โหลดโปรแกรม Zoiper มาเลยครับให้เลือกทั้ง ใน Window , Android , Mac  >> www.zoiper.com/en
อันนี้เป็นของ IPhone ครับ โหลดมาเสร็จก็เข้าไปเลยครับ

เลือก แทบ Setting  > Accounts

กด + ทางด้านขวาบน

กด Yes

เลือก Manual configuration

ถึงหน้านี้ให้เราเลือก SIP account

ใส่ข้อมูลที่เราลงทะเบียนไว้ใน Elastix ลงไป


เมื่อทำเสร็จทั้งหมดแล้ว ให้ลองทำอีกเครื่อง แล้วลองโทรหากันดูนะครับ

การติดตั้ง Elastix

การติดตั้ง Elastix
ขั้นแรกเลือก Install Elastix 4 แล้วรอโหลดจนเสร็จ